top of page
RISING PROPERTY INVESTMENT GROUP

ตลาดอสังหาฯ ในประเทศอังกฤษ เป็นตลาดที่ทั่วโลกให้ความสนใจ เพราะเป็นตลาดที่อยู่ตัวแล้ว มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา และมีผู้ประกอบการรายใหม่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก นอกจากนี้ กฎหมายของประเทศอังกฤษเปิดโอกาสให้ต่างชาติถือครองอสังหาฯ ได้อย่างถูกต้อง 100% มีการจัดการที่โปร่งใส ที่สำคัญผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่อง
กรุงลอนดอนยังเป็นที่ต้องการอย่างมากและค่าเงินปอนด์ก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำเป็นปีที่ห้าติดต่อกัน จึงทำให้ปี 2564 เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่นักลงทุนจะเข้าสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของกรุงลอนดอน
"ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงลอนดอนกำลังกลายเป็นทางเลือกในการลงทุนที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ชาวไทยที่มีกำลังซื้อสูง โดยทำเลที่ได้รับความสนใจมากที่สุดอยู่ที่โซน 1และโซน 2 ของกรุงลอนดอน"

นักลงทุนกลุ่มแรกที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในกรุงลอนดอน คือ ครอบครัวที่มีฐานะที่มีบุตรหลานกำลังศึกษาต่ออยู่ในกรุงลอนดอน ผู้ซื้อกลุ่มนี้ต้องการหาที่พักอาศัยเพื่อมอบความสะดวกสบายแก่บุตรหลาน โดยจะซื้อที่พักอาศัยที่มีระยะห่างจากสถานีรถไฟใต้ดินประมาณ 500–800 เมตร เพื่อให้บุตรหลานเดินทางไปกลับมหาวิทยาลัยได้อย่างสะดวกสบายในขณะที่นักลงทุนกลุ่มที่สองจะลงทุนเพื่อต้องการสร้างผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า "
ด้วยเครือข่ายของระบบขนส่งมวลชนในกรุงลอนดอนที่ได้รับการพัฒนาให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วเมืองหลวง จึงทำให้การเดินทางไปใจกลางกรุงลอนดอนจากโซน 3 และโซน 4 ทำได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งที่ดินในทั้งสองโซนนี้ยังมีราคาต่ำกว่าโซน 1 และโซน 2 เป็นอย่างมาก จึงนับได้ว่าการซื้อที่พักอาศัยในโซน 3 และโซน 4 เป็นการลงทุนที่ดีและคุ้มค่าในการซื้อเพื่อนำมาปล่อยเช่าสำหรับนักลงทุนไทย โดยสามารถซื้อที่พักอาศัยขนาด 1 ห้องนอนในโซน 2-3 ด้วยงบประมาณเพียง 15-20 ล้านบาท
เมื่อเปรียบเทียบด้านงบประมาณการลงทุนจะพบว่า ด้วยงบลงทุนเริ่มต้นที่ 500,000 ปอนด์ หรือราว 20 ล้านบาท นักลงทุนสามารถซื้อที่พักอาศัยขนาด 1 ห้องนอนในลอนดอน หรือที่พักอาศัยขนาด 2 ห้องนอนโซน 4-5 หรือที่พักอาศัยขนาด 3 ห้องนอนโซน 5 หรือโซน 6 ราคาที่พักอาศัยในกรุงลอนดอนจะปรับตัวสูงขึ้นอีก 1.6% ภายในสิ้นปี 2563 และเพิ่มขึ้น 3.5% ในปี 2564 ก่อนที่จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 3.9% ในปี 2565 รวมระยะเวลาภายใน 5 ปีราคาที่พักอาศัยในกรุงลอนดอนคาดการณ์ว่าปรับตัวสูงขึ้นรวม 10.5% นอกจากนี้ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อัตราค่าเช่าที่พักอาศัยในกรุงลอนดอนเติบโตขึ้น 10% และคาดว่าจะเติบโตขึ้นอีก 18% ในปี 2566
หนึ่งในเหตุผลหลักของการเติบโตดังกล่าวคือ ปริมาณที่พักอาศัยที่สร้างเสร็จนั้นน้อยกว่าปริมาณความต้องการที่มีในตลาดจากข้อมูลด้านแผนการประจำปีสำหรับจำนวนที่พักอาศัยสร้างเสร็จในกรุงลอนดอนโดยกระทรวง Housing, Communities and Local Government พบว่า มีที่พักอาศัยที่สร้างแล้วเสร็จน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 66,000 หลังคาเรือนต่อปี

“ค่าเงินปอนด์ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำมาตั้งแต่ปี 2557 ในขณะที่ราคาอสังหาริมทรัพย์ระดับบนสุดในกรุงเทพมหานครปัจจุบันแตะที่ระดับใกล้เคียงกับราคาอสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนดังนั้น ด้วยงบประมาณเดียวกัน ลูกค้าสามารถเลือกได้ระหว่างเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ หรือจะเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ระดับบนสุดในตลาดไทย
กรุงลอนดอนนั้นนอกจากจะเป็นสถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทระดับโลกจำนวนมากแล้ว ยังเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางการเงินของโลก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และเป็นศูนย์กลางทางด้านการศึกษาระดับสูงซึ่งประกอบไปด้วยมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยมากกว่า 40 แห่ง
อีกทั้งในสหราชอาณาจักรก็ไม่มีข้อจำกัดในการปล่อยเช่าหรือเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่นักลงทุนต่างชาติจำเป็นต้องกังวล อย่างไรก็ตาม กระบวนการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักรนั้นจำเป็นต้องมีการจ้างทนายและการประเมินทรัพย์สินอย่างละเอียดก่อนที่จะทำการซื้อ และตลาดลอนดอนได้รับประโยชน์จากอัตราแลกเปลี่ยนที่อยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งแนวโน้มกำไรจากมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตและผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า
ในปีนี้บริษัทจึงได้นำโครงการอสังหาฯ ในประเทศอังกฤษเข้ามาแนะนำให้คนไทยได้มีโอกาสเข้าไปลงทุนเพิ่ม โดยมีอสังหาฯ ประเภทอื่นนอกจากโครงการคอนโดฯ ด้วย ทั้งหุ้นกู้ อพาร์ตเม้นท์ ที่พักนักศึกษา และโรงแรม มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2 ล้านบาท ไปจนถึง 100 ล้านบาท เป็นโครงการที่อยู่ในเมืองที่กำลังเติบโตและมีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ มีผลตอบแทนการลงทุนอยู่ในระดับ 6.5%-10% ต่อปี เช่นเมือง Manchester, Leeds และ Birmingham
bottom of page